วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

การพัฒนาชุดฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ เรื่องการคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3




               การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาชุดฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ เรื่อง การคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์การเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หลังเรียนกับก่อนเรียน โดยใช้ชุดฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ เรื่อง การคูณ และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดฝึกทักษะ
                    กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการทดลองครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/3  โรงเรียนเทศบาล 1 (บ้านโพธิ์กลาง) สังกัดเทศบาลเมืองพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 27 คน      ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556 ซึ่งได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย ดำเนินการใช้แผนการทดลองแบบ One - Group Pre-test post-test Design เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองคือ ชุดฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ เรื่อง การคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 12 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ซึ่งมีค่าความยากตั้งแต่ .45-.71 ค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ .25-.75 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .85 และแบบประเมินความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้ชุดฝึกทักษะ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบค่า t

                 ผลการวิจัยพบว่า
                     1. ชุดฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ เรื่อง การคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3     ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพเท่ากับ 75.50/78.15 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 75/75 ที่ตั้งไว้
                     2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการสอน               โดยชุดฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ เรื่องการคูณ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
                     3. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ต่อการเรียนด้วยชุดฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ เรื่องการคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ในภาพรวมอยู่ในระดับดี คือนักเรียนมีความพึงพอใจในรูปเล่ม กิจกรรมและพึงพอใจที่ได้มีส่วนร่วมได้ศึกษาและเรียนรู้ด้วยตนเองในระดับมากที่สุด ซึ่งมีค่าร้อยละ 74.08 เท่ากัน ส่วนความพอใจการอธิบายของข้อตัวอย่างในชุดฝึก มีความรู้สึกอยากเรียนคณิตศาสตร์และรู้สึกตื่นเต้นอยากเรียนด้วยชุดฝึกทักษะอยู่ในระดับมาก ซึ่งมีค่าร้อยละ 92.60 และ 62.97 ตามลำดับ ส่วนด้านการพัฒนาความรู้และทักษะของชุดฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหา นักเรียนมีความพึงพอใจในการนำเอาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาไปใช้และการที่ได้ฝึกคิดและจินตนาการในการหาคำตอบในระดับมากที่สุด ซึ่งมีค่าร้อยละ 92.60 และ 81.49 ตามลำดับ  และนักเรียนมีความพึงพอใจในการได้มีความรู้ความเข้าใจในกระบวนการแก้โจทย์ปัญหา 4 ขั้นตอน นักเรียนมีทักษะในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์และพอใจที่มีความสามารถในการแต่งโจทย์ปัญหาในระดับมาก ซึ่งมีค่าร้อยละ 74.08 , 66.67 และ 62.97 ตามลำดับ      

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น